Bookmark and Share Add to Favorites  
สมาคม
  LIN (SURNAME)
   China's Lin Clan Network
   Chaoshan Lin
   สมาคมตระกูลลิ้มแห่งประเทศไทย
  ชุมชนชาวฮากกา
หนังสือพิมพ์
  ซินหัวไทย
  China Daily
  China News
  People's Daily Online
  Xinhua
  China Youth Daily
  Bangkokpost
  มติชน
  ไทยรัฐ
  เดลินิวส์
  ผู้จัดการ
  คมชัดลึก
  กรุงเทพธุรกิจ
  บ้านเมือง
  แนวหน้า
  ไทยโพสต์
  โพสต์ทูเดย์
  สยามรัฐ
  บางกอกทูเดย์
  โลกวันนี้
  เส้นทางเศรษฐกิจ
  มติชนสุดสัปดาห์
มุมนักเสี่ยงโชค
  ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
  ตรวจสลากย้อนหลัง
  ผลสลากออมสิน
  ธกส.ออมทรัพย์ทวีสิน
แลกเปลี่ยนเงินตราและหุ้น
  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  ธนาคารไทยพาณิชย์
  ธนาคารกรุงเทพ
  ตลาดหลักทรัพย์ - หุ้น
  ตลาดหุ้น
เว็บเครือข่าย
  สมบูรณ์อินโฟ
  ภูเก็ตสารสนเทศ
  สมบูรณ์แก่นโน้ต

การศึกษาเล่าเรียน

 

 

       

      

 

 

        ครอบครัวของหลินเจ๋อสวีเป็นครอบครัวที่มีการศึกษา   ในช่วงวัยเด็กหลินจึงได้รับการสอนภาษาจีนตั้งแต่อายุได้สามขวบและสามารถอ่านได้คล่องเพียงอายุสี่ขวบ  เขาสามารถเขียนเรียงความได้อย่างสละสลวยเมื่ออายุเพียงเจ็ดขวบ  เยี่ยงเด็กที่บิดามารดามีฐานะทั่วไป   เมื่ออายุได้เจ็ดขวบเขาจึงได้เข้าโรงเรียน  เขาสอบได้เป็นที่หนึ่งของห้องเมื่ออายุได้สิบสามปี  คงเรียนทั้งวิชาฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊   จนอายุได้  ๑๔ ปี  การเรียนเริ่มสูงขึ้น   หลินจึงไปสมัครสอบไล่ระดับอำเภอของทางราชการที่เมืองฝูโจวนั่นเอง  ซึ่งเป็นการสอบระดับขั้นต่ำสุด  คณะกรรมการสอบไล่ได้พิจารณาผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุด  ๒๐  คนแรก  ให้ได้วุฒิบัตร  ซิวไช่  (  ซิวจ๋าย  )  หลินเจ๋อสวีสอบติดกลุ่มนี้   ถึงแม้จะไม่มีตำแหน่งราชการบรรจุให้  แต่ก็ทำให้ผู้ที่สอบได้มีฐานะทางสังคมสูงกว่าราษฎรทั่วไป   ต่อมาหลินได้สมัครสอบไล่ระดับมณฑล  คือมณฑลเจ้อเจียง  เขาสอบผ่านและได้วุฒิบัตร  จูเหริน   ด้วยอายุเพียงยี่สิบปี   

         ในระหว่างที่เจิ้งเฉงกงได้ใช้เมืองเซียะเหมินเป็นฐานเพื่อขับไล่พวกดัชต์ออกจากไต้หวันอยู่นั้น  หลินได้รับคำสั่งให้เข้าไปทำหน้าที่เป็นเลขานุการกรมป้องกันทางทะเลของฝูเจี้ยน  เมื่อเขาอายุ  ๒๑ ปี  จากการทำงานที่นี่  เขาได้รับอิทธิพลจากการทำงานของเจิ้งเฉิงกงมามากนั่นก็คือ ด้านความกล้าหาญ  เจิ้งเฉิงกงได้รับสมญานามว่า “วีรบุรุษผู้ต่อต้านแมนจู”    แล้วปล่อยให้ไต้หวันเป็นอิสระ  จากที่เขาได้ทำงานที่เซียะเหมิน  เขาจึงถือโอกาสศึกษาพฤติกรรมของพวกฝรั่งต่างชาติเหล่านั้นที่ประพฤติเกี่ยวกับการโกงกินเมื่อมาติดต่อกับพวกข้าราชการจีน  เขาได้เห็นฝิ่นจำนวนมากที่ทะลักเข้ามายังเมืองเซียะเหมิน  เขาได้รับรู้ถึงความเลวทรามของพวกพ่อค้าลักลอบขายฝิ่น

        ต่อมาเขาจึงเดินทางเข้าเมืองหลวงคือกรุงปักกิ่ง  เพื่อสมัครสอบระดับที่สูงขึ้น   ที่เรียกว่า  จิ้นสือ เขาต้องใช้ความพยายามถึงสามครั้ง   จึงสอบผ่านได้เป็นจิ้นสือ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๔    ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่ม    ถึง  ๑๐  คนแรก   นักศึกษากลุ่มนี้มีสิทธิ์เข้าไปสอบต่อหน้าพระที่นั่ง  เพื่อชิงตำแหน่ง  จอหงวน  ตันฮวา  และ  ปันอั้น  ตามลำดับ   นักศึกษาที่ได้เข้าสอบในระดับนี้  ถึงแม้จะไม่ได้ต่ำแหน่งสูงสุด  แต่ก็ได้รับเข้าศึกษายัง สถาบันฮั่นหลิน  ในพระราชวัง  สถาบันแห่งนี้ได้เริ่มมีขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง   หลินเจ๋อสวีได้เข้าศึกษาในสถาบันแห่งนี้เมื่อ  พ.ศ.  ๒๓๕๔ ด้วยอายุเพียง  ๒๖  ปี   สมัยฮ่องเต้เหรินจงหรือเจียชิ่ง    อันเป็นการศึกษาขั้นสูงสุดของเขา   และเป็นการใฝ่ฝันของนักศึกษาจีน   ที่ต้องการไต่เต้าไปให้ถึงตำแหน่ง  จอหงวนหรือตำแหน่งต้นๆ

 

 

           :    สมบูรณ์ แก่นตะเคียน    ๑๙ เมษายน ๒๕๕๑

 

 

 

 

บทความอื่นๆ ในหมวดเดียวกัน