Bookmark and Share Add to Favorites  
สมาคม
  LIN (SURNAME)
   China's Lin Clan Network
   Chaoshan Lin
   สมาคมตระกูลลิ้มแห่งประเทศไทย
  ชุมชนชาวฮากกา
หนังสือพิมพ์
  ซินหัวไทย
  China Daily
  People's Daily Online
  Xinhua
  Bangkokpost
  มติชน
  ไทยรัฐ
  เดลินิวส์
  ผู้จัดการ
  คมชัดลึก
  กรุงเทพธุรกิจ
  บ้านเมือง
  แนวหน้า
  ไทยโพสต์
  โพสต์ทูเดย์
  สยามรัฐ
  บางกอกทูเดย์
  โลกวันนี้
  เส้นทางเศรษฐกิจ
  มติชนสุดสัปดาห์
มุมนักเสี่ยงโชค
  ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
  ตรวจสลากย้อนหลัง
  ผลสลากออมสิน
  ธกส.ออมทรัพย์ทวีสิน
แลกเปลี่ยนเงินตราและหุ้น
  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  ธนาคารไทยพาณิชย์
  ธนาคารกรุงเทพ
  ตลาดหลักทรัพย์ - หุ้น
  ตลาดหุ้น
เว็บเครือข่าย
  สมบูรณ์อินโฟ
  ภูเก็ตสารสนเทศ
  สมบูรณ์แก่นโน้ต

พระเจ้าซังทัง 商湯

 

       

 

 


        พระเจ้าซังทัง    ( 湯 , 商湯 )    ผู้ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ซัง  และเป็นองค์แรกในประวัติศาสตร์จีน  ส่วนราชวงศ์เซี่ยก่อนสมัยราชวงศ์ซัง   นักประวัติศาสตร์ยังหาหลักฐานมาอ้างอิงไม่ได้  จึงยังคงเป็นตำนานในปัจจุบัน

 

 

          บรรพบุรุษของพระเจ้าซังทัง  คือ ซังเจี่ย ซึ่งหมายถึง องค์ชายเซ่ย  契   ผู้เป็นโอรสของพระเจ้าเกาซินซื่อ หรือ พระเจ้าตี้คู่  กับพระมเหสีฝ่ายซ้าย คือ  พระนางเจียนตี้  ธิดาของขุนนางผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้านครเมืองหยุนเฉิง  ชื่อ อู่ซ่ง  ในมณฑลซานซีปัจจุบัน  จากการบันทึกของซือหม่าเชียน  กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า  วันหนึ่งพระเจ้าตี้คู่เสด็จประพาสตำบลเกาป๋วยพร้อมด้วยพระนางเจียนตี้  เพื่อทรงประกอบพิธีบวงสรวงเทพารักษ์  พระนางได้รับไข่นกสีดำมาฟองหนึ่งและได้เสวยไข่นกนั้น  ไม่นานพระนางทรงครรภ์แล้วประสูติโอรส  พระบิดาทรงตั้งพระนามให้ว่า  จื่อซี หรือ เซ่ย  ซึ่งต่อมาทรงเป็นต้นราชวงศ์ซังทังนั่นเอง

 

 

        เมื่อองค์ชายเซ่ยเจริญวัย  จึงเข้ารับราชการกับพระเจ้าเหยาตี้  ซึ่งโปรดฯให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายบริหารและกิจการที่ดิน  เรียกว่า  ซือถู  และโปรดฯให้ใช้ แซ่จี  ครั้นถึงสมัยพระเจ้าซุนตี้  โปรดให้องค์ชายเซ่ยไปครองเมืองซัง คือ อำเภอซังหลัวในปัจจุบัน  นอกจากนี้ยังโปรดฯให้องค์ชายเซ่ยไปช่วย  อวี้  ( พระเจ้าเซี่ยอวี่ตี้ ในภายหลัง )  เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำหวงเหอ  การแก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งนั้นเป็นผลสำเร็จ  อวี้ได้รับการยกย่องจากราษฎรและชนเผ่าต่างๆให้เป็นวีรบุรุษผู้แก้ปัญหาน้ำท่วม  เมื่ออวี้ขึ้นครองราชย์  ทรงพระนามว่า  พระเจ้าเซี่ยอวี่ตี้  โปรดฯให้เปลี่ยนชื่อเมืองหลวงเป็น  เซี่ย  และทรงเปลี่ยนการปกครองเป็น ๙ เขตแบบเมืองใหญ่ ทรงปกครองด้วยความยุติธรรม

 

 

        หลังจากพระเจ้าเซี่ยอวี่ตี้เสด็จสวรรคต  องค์ชายฉี  โอรสขึ้นครองราชย์  ทำให้เจ้านครหัวหน้าชนเผ่าไม่พอใจ  คือไม่ได้เลือกคนที่มีคุณธรรมขึ้นเป็นกษัตริย์   ต่างรวมพลกันต่อต้านพระเจ้าฉี  พระองค์จึงปราบปรามอย่างเด็ดขาด  หลังจากนั้นทรงสร้างกองทัพให้เข้มแข็ง  ทรงสร้างกำแพงเมือง  ทรงขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง  ราชวงศ์เซี่ยได้สืบสานราชวงศ์มา  ๑๗  ช่วงกษัตริย์  จนถึงสมัยพระเจ้าเซี่ยเจี่ยจึงล่มสลาย

 

 

 

 

 

 

พระชาติกำเนิด

 

 

        ข้างฝ่ายเมืองซัง หลังจากองค์ชายจีเซ่ยสิ้นพระชนม์แล้ว  ได้มีการสืบสายเจ้านครมา  ๑๔  ช่วงอายุคน  จนถึงสมัย  จีต้าอี้ หรือ จีเทียนอี้ หรือไท่อี้ ซึ่งเป็นโอรสของจีจูกุ้ย จีต้าอี้ประสูติ ประมาณก่อน พ.ศ.  ๑๒๗๔ เมืองซังก็ยังคงเป็นเจ้านครที่ขึ้นตรงต่อราชวงศ์เซี่ย  ฮูหยินของต้าอี้ชื่อ  นางปี่ปิง  มีบุตรที่ปรากฏชื่อ ได้แก่  จีไท่ติง จีฉีเซิ่ง จีโอ้วปิ่ง  จีย้ง  ต้าอี้เป็นคนเฉลียวฉลาด  มีไหวพริบ  มีความเก่งกาจทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋น   ในฐานะบุตรเจ้านคร  ต้าอี้ต้องไปรับราชการที่เมืองหลวง คือ เมืองอันหยังกับพระเจ้าเซี่ยเจี่ย  ต้าอี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ฝางปั๋ว  หรือ เจ้านครฝางปั๋ว  ( เมืองปั๋ว คือเมืองชาวเสี้ยน มณฑลซานตงในปัจจุบัน )  ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ราบภาคกลางบริเวณแม่น้ำหวงเหอ

 

 

           สาแหรกของพระเจ้าซังทังมีดังนี้

 

 

           ๑. พระเจ้าซังทัง เป็นโอรสของ ๒. องค์ชายจีจู่กุ้ย ๆ เป็นบุตรของ ๓. จูหรินหรือซื่อเหยิน ๆ เป็นบุตรของ ๔. เปาปินๆ เป็นบุตรของ ๕. เปาอี้ ๆ เป็นบุตรของ ๖. เปาติงๆ เป็นบุตรของ ๗. อุยหรือซังเจี่ย อุยๆ เป็นบุตรของ ๘. เจิ้นๆ เป็นบุตรของ ๙. หมินหรือ หมิงๆ เป็นบุตรของ ๑๐. เชาอี้ๆ เป็นบุตรของ ๑๑. ชางหยัวๆ เป็นบุตรของ ๑๒. เซียงตู้ๆ เป็นบุตรของ ๑๓. เจ้าหมิงๆ เป็นบุตรขององค์ชายเซ่ย

 

 

           บางตำนานได้เพิ่มอีกสองท่าน คือ ระหว่างเจิ้นกับหมิน  เป็น ๘. เจิ้นๆ เป็นบุตรของ ๙. หวังเหิงๆ เป็นบุตรของ ๑๐. หวังไห่ๆ เป็นบุตรของ ๑๑.  หมินหรือหมิง  แต่บางตำนานว่า เจิ้นมีอีกชื่อหนึ่งคือ หวังไห่

 

 

           ถ้าหากสืบสายขึ้นไปจากองค์ชายเซ่ยที่ ๑๔ เป็นโอรสของ ๑๕. พระเจ้าตี้คู่หรือเกาซินซื่อๆ เป็นโอรสของ ๑๖. องค์ชายเจียวจีๆ เป็นโอรสขององค์ชาย ๑๗. เซียนเหนาๆ เป็นโอรสของ ๑๘. พระเจ้าหวงตี้

 

 

           ดังนั้น พระเจ้าซังทังจึงทรงสืบเชื้อสายมาจากองค์ชายจีเซ่ย เป็นลำดับที่ ๑๔ และทรงสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าหวงตี้ เป็นลำดับที่ ๑๘

 

 

 

 

 

 

การสถาปนาราชวงศ์ซัง

 

 

         ดังได้กล่าวแล้วว่าต้าอี้เป็นคนเฉลียวฉลาด มองการณ์ไกล  รู้จักการบริหารบ้านเมือง  รู้จักการคบคนและคัดเลือกคนเข้าทำงานทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋น  แต่ช่วงสมัยนั้น  ผู้ชายทุกคนต้องรู้และเชี่ยวชาญการสู้รบ การใช้อาวุธชนิดต่างๆ  ร่างกายบึกบึนแข็งแรง  เพื่อป้องกันตัวเองและเข้าสงคราม  เพราะมีการต่อสู้แย่งชิงดินแดนอยู่เป็นประจำ  ตราบใดที่ยังไม่มีผู้ที่มีอำนาจและบารมีที่เหนือกว่าที่ทำให้เจ้านครเมืองต่างๆที่เป็นบริวารชนเผ่าเกรงกลัว ก็ยากที่จะสงบได้

 

 

        ฝ่ายพระเจ้าเซี่ยเจี่ยทรงลุ่มหลงสุรานารี ไม่บริหารบ้านเมืองให้อยู่ในความยุติธรรม ถูกพวกขุนนางกังฉินยุยง  พระองค์มิได้ออกว่าราชการ เสนาบดีผู้ใหญ่ชื่อ กวนเล่งหอง ขอเข้าเฝ้าเพื่อกราบทูลเตือนพระองค์ ทรงกริ้วสั่งให้ประหารชีวิตเสีย ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปกราบทูลอีก

 

 

        ข้างต้าอี้จึงคิดอุบายแยบยลเพื่อเตือนสติพระองค์  ด้วยการแต่งเพลงให้คนไปขับร้องสรรเสริญกวนเล่งหองว่าเป็นคนซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน  แต่กษัตริย์ไมทรงตั้งอยู่ในความยุติธรรม  เมื่อมีคนนำไปร้องและทราบถึงพระองค์  จึงทรงให้ทหารจับต้าอี้ไปขังคุก  แต่ไม่ถึงกับประหาร  เมื่อหายพิโรธ  จึงให้ปล่อยออกจากคุก

 

 

        ต้าอี้จึงเดินทางกลับไปเมืองปั๋ว  ขณะผ่านทุ่งนาเห็นชาวนาวางตาข่ายดักนกในนาของตนทั้งสี่ด้าน  ต้าอี้ยืนพิจารณาแล้วเห็นว่า นกที่ลงไปกินข้าวในนาเมื่อบินขึ้นทุกทิศก็จะถูกจับหมดฝูง  เขาจึงคิดสงสารนกบอกให้เจ้าของตาข่ายเลิกเสียสามด้าน ให้คงไว้ด้านเดียว นกที่ถึงแต่ความตายย่อมติดตาข่ายแน่นอน  เมื่อราษฎรได้ทราบ ต่างสรรเสริญต้าอี้และหวังว่าเมื่อเขาได้เป็นใหญ่ในอนาคตย่อมเป็นที่พึ่งได้   ซึ่งต่างจากพระเจ้าเซี่ยเจี่ยที่ทรงปกครองราษฎรด้วยความโหดร้ายทารุณ ถึงขนาดทำโทษด้วยการตัดจมูกตัดแขนตัดขา เกณฑ์แรงงานไปสร้างวังและพลับพลาที่ประทับเพื่อเสวยสุขสำราญส่วนพระองค์  ยังโปรดการสงครามด้วยการปล้นสะดมภ์ของมีค่าและหญิงสาวมาบำเรอพระองค์  พวกเจ้านครหัวเมืองต่างไม่พอใจ  แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะยังขาดผู้นำที่เข้มแข็งมาสู้รบกับกองทัพของพระองค์ได้

 

 

        ต้าอี้ทราบว่ามีชาวนาผู้หนึ่งชื่อ อิอิ๋น หรือ อี่จื้อ  ทำเลบ้านช่องอยู่ที่ตำบลอิ๋วซิน  เขาได้แต่งเพลงสรรเสริญพระเจ้าเซี่ยเจี่ย  ต้าอี้คิดว่าคนผู้นี้คงมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด  น่าจะเชิญมาทำงานด้วยกัน  จึงให้ขุนนางเอาข้าวของแพรพรรณมากมายไปให้  แต่เขาไม่รับ  ต้าอี้ได้ให้ขุนนางไปเชิญถึงสามครั้ง ( บางตำนานว่า ๕ ครั้ง )   อิอิ๋นจึงมาหาต้า  เขาจึงนำไปเข้าเฝ้าเพื่อถวายตัวรับราชการ แต่พระองค์ไม่ทรงโปรดฯ ต้าอี้จึงนำอิอิ๋นมารับราชการกับหน่วยงานของตน 

 

 

        ข้างหัวเมืองหลายเมืองแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นกับเมืองหลวง  โปรดฯให้ต้าอี้ยกไปปราบ เช่น เจ้านครเก๋อปั๋วที่หวังยึดอำนาจจากพระเจ้าเซี่ยเจี่ย   อย่างไรก็ตามตอนที่ต้าอี้เดินทางกลับเมืองปั๋วหลังจากติดคุก เขาวางแผนที่จะยึดอำนาจจากกษัตริย์เช่นกัน  โดยอ้างความชอบธรรมที่พระเจ้าเซี่ยเจี่ยไม่ทรงตั้งอยู่ในความยุติธรรม ไม่มีคุณธรรม ทรงทารุณโหดร้ายต่อราษฎรและขุนนาง  นอกจากนี้ต้าอี้ยังอ้างด้วยว่า ได้รับพระบัญชาจากสวรรค์ คือ เทพซังตี้  ที่พระองค์ทรงบัญชาให้ต้าอี้ปราบยุคเข็ญ

 

 

        แรกเริ่มต้าอี้ได้ชักชวนพันธมิตรเจ้านครที่ขึ้นกับกษัตริย์ก่อน  หากเมืองใดไม่ให้ความร่วมมือก็จะยกทัพไปปราบโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ทั้ง ๑๑ เมือง  เพื่อสะสมกองทัพที่สามารถสู้รบกับกองทัพขนาดใหญ่ของเมืองหลวงได้  ดังนั้นเจ้านครที่มีกองทัพเป็นเรือนพันจึงยอมขึ้นกับต้าอี้

 

 

        ในที่สุดต้าอี้ก็เปิดศึกกับพระเจ้าเซี่ยเจี่ยที่ตำบลอวี่ซ่ง ( เมืองหยุนเฉิง มณฑลซานซี )  จนพระองค์ต้องถอยทัพไปถึงเมืองหมิงเต้า ( เมือง พูโจว )  ทัพต้าอี้ไล่รุกจนพระองค์ร่นไปถึงเมืองซันชุน ( เมืองติงเต้า หรือ จี๋อิน เมืองเก่าจ้าวโจว )  พระองค์ทรงถอยทัพไปตำบลอู่จ้าว หรือชายทะเลสาบชาวหู มณฑลอันฮุย  และสิ้นพระชนม์ที่นั่น  บางตำนานกล่าวว่ากองทัพพันธมิตรรบกับกองทัพหลวงที่ตำบลอู่เถียง ( ไคฟงในปัจจุบัน )  ทัพพันธมิตรชนะจับพระเจ้าเซี่ยเจี่ยแล้วเนรเทศไปประทับที่ตำบลหมิงตี้ และสิ้นพระชนม์ที่นั่น   กล่าวกันว่ากองทัพต้าอี้ชนะเพราะมีกองกำลังกล้าแข็งที่มีอาวุธสำคัญคือ ธนูและดอกศร  ราชวงศ์เซี่ยจึงล่มสลาย

 

 

        กลุ่มพันธมิตรที่เข้าร่วมรบ  จึงยกต้าอี้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า  พระเจ้าเฉิงทัง  成湯  หรือ พระเจ้าต้าอี้  大乙  หรือ ซังหลี่ 商履  เมื่อพระชนม์ได้  ๓๔ ปี ประมาณก่อน พ.ศ. ๑๒๔๐  ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ซัง ทรงใช้เมืองปั๋วเป็นราชธานีอยู่ระยะหนึ่ง แล้วจึงโปรดฯให้ย้ายไปเมืองซังอี้  โปรดฯให้ อิอิ๋น 伊尹 เป็นมุขมนตรี หรือ นายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน  พระเจ้าเฉิงทังทรงครองราชสมบัติอยู่  ๒๙ ปี จึงเสด็จสวรรคต  ประมาณ ก่อน พ.ศ.  ๑๒๑๑  รวมพระชนมายุ  ๖๓ พรรษา  พระศพฝังไว้ที่อำเภออันซื่อแห่งมณฑลเหอหนาน

 

 

 

 

 

 

         :   สมบูรณ์ แก่นตะเคียน  ๑๙ กรกฎาคม  ๒๕๔๙

 

 

 

Title  :   Shang Tang : The First King of Shang Dynasty

 

 

 

 

 

 

 

 

 

         

บทความอื่นๆ ในหมวดเดียวกัน