ภาคที่ ๗ สกุลหลินสมัยราชวงศ์จิ้น ค.ศ. ๒๖๕ - ๔๒๐
.jpg)
ภาคที่ ๗ สกุลหลินสมัยราชวงศ์จิ้น ค.ศ. ๒๖๕ ๔๒๐
ราชวงศ์จิ้นตะวันตก ค.ศ. ๒๖๕ ๓๑๗
ราชวงศ์จิ้นตะวันออก ค.ศ. ๓๑๗ ๔๒๐
*****
ราชวงศ์ขาวเว่ยหรือราชวงศ์วุยก๊กของโจโฉ ครองอาณาจักรเว่ยจากค.ศ. ๒๒๐ ๒๖๕ ก็ล่มสลาย เมื่อตระกูลแซ่ซือหม่าเข้าเป็นใหญ่ในราชสำนัก โดยมีซือหม่าแหยน เป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง ควบคุมราชสำนักได้หมด อำนาจทหารอยู่ในมือของตน บังคับฮ่องเต้โจหวนมอบอำนาจให้ตน แล้วตั้งตนเป็นฮ่องเต้จิ้นอู่ตี้ เมื่อค.ศ. ๒๖๕
ด้วยเหตุที่เห็นความอ่อนแอของราชวงศ์เก่า จึงทรงปรับใหม่ ให้เหล่าบรรดาพระญาติ โอรส หลาน ราชสกุลแซ่ซือหม่า เป็น อ๋อง ให้ออกไปครองหัวเมืองเอกต่างๆ แต่ปัญหาตามมาทีหลัง เมื่อเหล่าท่านอ๋องต่างแย่งกันเป็นใหญ่ เรียกว่า สงคราม ๘ อ๋อง ภายหลังจากฮ่องเต้จิ้นอู่ตี้เสด็จสวรรคตแล้ว บรรดาฮองไทเฮา ท่านอ๋อง ต่างตั้งกันเป็นก๊กรบกันเองชิงบัลลังก์ ในขณะที่ชายแดนภาคเหนือชนเผ่าเซียงหนู เห็นโอกาสยกทัพเข้าตีเมืองหลวงลั่วหยาง และฉางอาน ในที่สุดต้องแบ่งดินแดนปกครองเอาแม่น้ำหวยเป็นเขตกั้นกลาง ราชวงศ์จิ้นตะวันตกก็ล่มสลาย องค์ชายจินหวาง ตั้งตนเป็นฮ่องเต้จิ้นหยวนตี้ ตั้งเมืองหลวงที่เจี้ยนเย่ หรือ เจี้ยนคัง หรือ นานกิง ในปัจจุบัน เมื่อค.ศ. ๓๑๗ ถึงค.ศ. ๔๒๐ เป็นราชวงศ์จิ้นตะวันออก
รุ่นที่ ๗๖
หลินยี่กง 林玉公 นามรองว่า เจิ้นสือ 真实 เป็นบุตรของหลินก้วนกง ได้เข้ารับราชการสมัยฮ่องเต้จิ้นอู่ตี้ ซึ่งทรงครองราชย์ระหว่างค.ศ. ๒๖๕ ๒๙๐ ในปีรัชกาลไท่สื่อปีที่ ๒ ค.ศ. ๒๖๖ รับตำแหน่งเป็น ซื่อจง 侍中 ประธานกรรมการการสอบไล่เข้ารับราชการ และผู้บังคับการกองพันทหารรักษาพระองค์ ซีลี่เซี่ยวเว่ย 侍中兼司隶校尉 ภรรยาแซ่เจียง 姜 หลินยี่กงมีบุตรชาย ๖ คน คือ หลินเฝิงฉวิ้น 林逢勋 หลินฉีฉวิ้น 林奇勋 หลินฮุ่ยฉวิ้น 林惠勋 หลินซูฉวิ้น 林殊勋 หลินจงฉวิ้น 林忠勋 และหลินซื่อฉวิ้น 林世勋
รุ่นที่ ๗๗
หลินเฝิงฉวิ้นกง 林逢勋公 นามรองว่า กงจี้ 公绩 เป็นบุตรของหลินยี่กง ได้สมัครเข้ารับราชการสมัยฮ่องเต้จิ้นอู่ตี้ ซึ่งทรงครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. ๒๖๕ ๒๙๐ ในปีรัชกาลไท่สื่อปีที่ ๗ ค.ศ. ๒๗๑ รับตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการเมืองปั๋วหลิงจวิ้น 博陵郡太守 เป็นบุคคลสำคัญของสกุลหลินคนหนึ่ง ภรรยาแซ่ฉวิน 荀 หลินเฝิงชุนมีบุตรชาย ๒ คน คือ หลินเฉียน 林显 กับหลินโซ่ว 林硕
หลินฉีฉวิ้นกง 林奇勋公 เป็นบุตรของหลินยี่กง ได้เข้ารับราชการสมัยฮ่องเต้จิ้นอู่ตี้ ซึ่งทรงครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. ๒๖๕ ๒๙๐ ในปีรัชกาลเฉียนหนิงปีที่ ๗ ค.ศ. ๒๗๘ ได้รับตำแหน่งเป็น ผู้ว่าราชการ นครเหอหนาน 河南大尹
หลินฮุ่ยฉวิ้นกง 林惠勋公 เป็นบุตรของหลินยี่กง ได้เข้ารับราชการสมัยฮ่องเต้จิ้นฮุ่ยติ้ ซึ่งทรงครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. ๒๙๐ ๓๐๖ ในปีรัชกาลหย่งหนิงปีที่ ๒ ค.ศ. ๓๐๒ ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการ นครหนานหยาง 南阳太守
รุ่นที่ ๗๘
หลินเฉียนกง 林显公 นามรองว่า จ้งจง 仲宗 เป็นบุตรของหลินเฝิงฉวิ้นกง ได้เข้ารับราชการสมัยฮ่องเต้จิ้นอู่ตี้ ซึ่งทรงครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. ๒๖๕ ๒๙๐ ในปีรัชกาลไท่คางปีที่ ๓ ค.ศ. ๒๘๒ รับตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการนครอ้านติ้ง 安定 แล้วย้ายไปดำรงตำแหน่งเดิมที่ นครปั๋วหลิง博陵 นครซานหยาง 山阳 และนครซานจวิ้น 三郡太守 เป็นบุคคลสำคัญของสกุลหลินคนหนึ่ง ภรรยาแซ่หวาง 王 มีบุตรชาย ๒ คน คือ หลินเย่ 林业 และหลินจี 林基
รุ่น ๗๙
หลินเย่กง 林业公 นามรองว่า จื่อโจ้ว 子胄 เป็นบุตรของหลินเฉียนกง ถือกำเนิดที่เมืองปั๋วหลิง 博陵 ได้เข้ารับราชการทหารสมัยฮ่องเต้จิ้นฮุ่ยตี้ ซึ่งทรงครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. ๒๙๐ ๓๐๖ ในปีรัชกาลหย่งคางปีที่ ๑ ค.ศ. ๓๐๐ รับตำแหน่งเป็น ซือหม่า 司马 ผู้บัญชาการกองทัพ ภรรยาแซ่เชี่ยว萧 บุตรชายชื่อ หลินหลี่ 林礼
รุ่นที่ ๘๐
หลินหลี่กง 林礼公 นามรองว่า หยวนฟู่ 元副 เป็นบุตรของหลินเย่กง ถือกำเนิดที่เมืองปั๋วหลิง 博陵 ได้เข้ารับราชการสมัยฮ่องเต้จิ้นหวยตี้ ซึ่งทรงครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. ๓๐๗ ๓๑๓ ในปีรัชกาลหย่งเจียปีที่ ๑ ค.ศ. ๓๐๗ รับตำแหน่งเป็น จงหลางจู่ป๋อ 中郎主簿
ต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งสูงขื้นเป็น ไท่จื่อไท่ฟู่ 太子太傅 มีหน้าที่อบรมสั่งสอนองค์รัชทายาท ภรรยาแซ่กุง 宫 บุตรชายชื่อ หลินหยาง 林颖
รุ่นที่ ๘๑
หลินหยางกง 林颖公 นามรองว่า หยวนถง 元从 เป็นบุตรของหลินหลี่กง ได้เข้ารับราชการที่เมืองเชี่ยพี 下邳 ภรรยาแซ่ปิ่ง (หรือเปี๋ยง) 邴 จนมีบุตรชายที่เมืองนี้ ๒ คน คือ หลินม่าว 林懋 กับ หลินลู่ 林禄 ต่อมาในสมัยฮ่องเต้จิ้นหมิ่นตี้ ซึ่งทรงครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. ๓๑๓ ๓๑๗ ในปีรัชกาลเจี้ยนชิงปีที่ ๓ ค.ศ. ๓๑๕ ได้รับตำแหน่งสูงขึ้นเป็น สูโจวเปิ๋ยเจี้ย 徐州别驾 ต่อมาได้ย้ายไปรับตำแหน่งเป็น หวงเหมินซื่อหลาง 黄门侍郎 มีหน้าที่เป็นรองประธานกรรมการการสอบไล่เข้ารับราชการ เมื่อองค์ชายซือหม่ายุ่ย หรือ จินหวาง ทรงขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้จิ้นหยวนตี้ และตั้งเมืองหลวงที่เจี้ยนคังหรือนานกิงในปัจจุบัน เป็นการเริ่มต้นราชวงศ์จิ้นตะวันออกเมื่อค.ศ. ๓๑๘ บุตรชายทั้งสองต่างเข้ารับราชการด้วยกัน
รุ่นที่ ๘๒
หลินม่าวกง 林懋公 นามรองว่า ซื่อชิง 世兴 เป็นบุตรของหลินหยางกง ถือกำเนิดที่นครเชี่ยพี ถึงสมัยฮ่องเต้จิ้นหมิ่นติ้ ซึ่งทรงครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. ๓๑๓ ๓๑๗ ในปีรัชกาลเจี้ยนชิงปีที่ ๑ ปี ค.ศ. ๓๑๓ ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการนครเชี่ยพี 下邳太守 จึงย้ายครอบครัวมาอยู่ที่นครเชี่ยพี หลินม่าวกงจึงตั้งรกรากอยู่ที่นครเชี่ยพีตั้งแต่นั้น เหล่าบรรดาบุตรหลานที่สืบสกุลหลินกันมา ได้ชื่อว่า สกุลหลินสายเชี่ยพี
หลินลู่กง 林禄公 นามรองว่า ซื่อเหมิง 世萌 เป็นบุตรของหลินหยางกง ถือกำเนิดที่เมืองเชี่ยพี ในปี ค.ศ. ๓๑๑ เมืองลั่วหยางถูกกองทัพฮั่นจ้าวเผ่าเซียงหนูตีแตก ฮ่องเต้ถูกจับกุม ราษฎรและขุนนางต่างหนีภัยข้ามแม่น้ำแยงซีอพยพมาอาศัยอยู่ในเขตขององค์ชายจินหวาง ซึ่งต่อมาในปีค.ศ. ๓๑๘ ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้จิ้นหยวนตี้ หลินลู่กงจึงเข้ารับราชการกับฮ่องเต้จิ้นหยวนตี้ ได้รับตำแหน่งเป็น สั่นฉีชังต้าย 散骑常侍 เมื่อเปลี่ยนรัชกาลเป็น ฮ่องเต้จิ้นหมิงตี้ ซึ่งทรงครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. ๓๒๒ ๓๒๕ ปี ค.ศ. ๓๒๓ ได้ย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการนครจิ้นอ้าน 晋安太守 หลังจากถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ได้รับบรรดาศักดิ์ชั้นสูงสุด ชั้นหวาง หรือ อ๋อง เป็น จิ้นอ้านจวิ้นหวาง 晋安郡王 เหล่าบรรดาบุตรหลานสกุลหลินที่อาศัยอยู่แถบนี้ ได้ชื่อว่า สกุลหลินสายฮกเกี้ยน หลินลู่กงหรือจิ้นอ้านหวางจึงเป็นบุคคลสำคัญของสกุลหลิน ฮูหยินของหลินลู่กงที่ฮกเกี้ยนแซ่ขง 孔 มีบุตรชายกับขงฮูหยิน ๒ คน คือ หลินจิ่ง 林景 กับ หลินเชียน 林暹
********
|